vivo Y11 เช็คราคาล่าสุด ราคาถูก สเปค

Vivo Y11 มือถือรุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ มอบมุมมองในการรับชมที่กว้างขึ้น ประสิทธิภาพการใช้งานลื่นไหลรอบด้าน โดดเด่นด้วยกล้องถ่ายรูปด้านหลัง เลนส์คู่ที่มีเทคโนโลยี AI และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจ 5,000 มิลลิแอมป์

Vivo Y11 ก็เป็นมือถือในกลุ่มระดับเริ่มต้น Entry Level ราคาประหยัดในซีรีย์ Y จากค่าย Vivo เปิดตัวมาในช่วงเดือนตุลาคม 2019 ในราคา 4,299 บาท โดยยังคงเป็นมือถือที่มาภายใต้คอนเซปต์ Halo Screen, Bigger Battery ด้วยหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว พร้อมรอยบากรูปหยดน้ำให้มุมมองในการใช้งานที่มากขึ้น โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบไล่เฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของอัญมณีด้วยเทคนิคการผลิตสีในระดับพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความสวยงามและความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี พร้อมจุดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 มิลลิแอมป์ และกล้องถ่ายรูปด้านหลัง AI Dual Camera ที่มีเลนส์สำหรับจับระยะความลึกของวัตถุจึงรองรับการถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอออกมาได้อย่างสวยงาม และใช้งานทั่วไปได้ดีด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 439 ที่จับคู่มากับ RAM 3GB ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้สบายรวมไปถึงสามารถใช้เล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งานกันซึ่งเรียกได้ว่าหาได้ยากเลยทีเดียวสำหรับมือถือในราคาระดับนี้ จึงทำให้ Vivo Y11 นั้นเป็นมือถือรุ่นเล็กสเปคครบที่มาพร้อมคุณสมบัติในการใช้งานที่ครบครันพอตัวเลยทีเดียว

Vivo Y11 โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยหรูด้วยสีสันแบบไล่เฉดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณี และหน้าจอ Halo FullView Display ขนาดใหญ่มีรอยบากแบบติ่งหยดน้ำ มอบพื้นที่ในการแสดงผลได้อย่างเต็มอิ่มเต็มตามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

การออกแบบของ Vivo Y11 ก็เรียกได้ว่ามาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาตามมาตรฐานของมือถือในปัจจุบัน และแน่นอนว่าเมื่อเป็นรุ่นประหยัดดังนั้นวัสดุที่ใช้ประกอบตัวเครื่องก็จะเลือกใช้กรอบของตัวเครื่องและฝาหลังเป็นพลาสติก โดยตัวเครื่องก็มากับดีไซน์พื้นผิวเงางามคล้ายกระจก ออกแบบให้มีสีสันไล่เฉดซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของอัญมณี ด้วยเทคนิคการผลิตสีในระดับพรีเมี่ยมจึงทำให้สามารถไล่เฉดสีได้อย่างมีระดับ มอบความเงางามและหรูหราจากการตกกระทบของแสงที่แตกต่างกันได้อย่างสวยงาม โดยมีตัวเลือกสีสันได้แก่ สีฟ้าไล่เฉดสีดำ Mineral Blue สีแดงไล่เฉดสีดำ Agate Red และสีฟ้าอ่อนไล่เฉดสีม่วงอ่อน Skyline Blue มาในแพ็คเกจกล่องสีขาวเรียบง่ายตามสไตล์ Vivo โดยมีรูปภาพของตัวเครื่องและชื่อรุ่น Y11 อยู่ด้านหน้ากล่อง สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องก็จะประกอบไปด้วยตัวเครื่องของ Vivo Y11 พร้อมฟิล์มกันรอย หัว Adapter สำหรับชาร์จไฟ สาย Micro USB 2.0 เคสซิลิโคนแบบใส เข็มสำหรับจิ้มถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน

ตัวเครื่อง Vivo Y11 มีขนาด 159.43x76.77x8.92 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 190.5 กรัม มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.35 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.3:9 โดยมีรอยบากรูปติ่งหยดน้ำอยู่ตรงขอบกึ่งกลางด้านบน ทำให้มีพื้นที่หน้าจอที่มากกว่า มีความคมชัดของหน้าจอในระดับ HD+ โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 720 x 1544 พิกเซล ให้ภาพที่สวยงามคมชัดพร้อมมุมมองที่กว้างขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยเติมเต็มทุกประสบการณ์ใช้งานเหนือระดับได้เป็นอย่างดี

ด้านหน้าของตัวเครื่องนอกจากจะเป็นที่อยู่ของหน้าจอแสดงผลขนาด 6.35 นิ้วแล้ว ตรงบริเวณรอยบากรูปหยดน้ำด้านบนของหน้าจอก็ทำการติดตั้งกล้องหน้าพร้อมด้วยเซ็นเซอร์ต่าง ๆ โดยมีลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาติดตั้งอยู่ที่ขอบด้านบนของรอยบากเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ส่วนด้านล่างก็จะเว้นขอบเอาไว้เล็กน้อยซึ่งก็จะไม่มีการติดตั้งปุ่มใด ๆ อยู่ตรงบริเวณนี้ โดยจะใช้เป็นปุ่มควบคุมแบบ on screen ประกอบไปด้วยปุ่ม Resent Apps ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งผู้ใช้งานก็สามารถเลือกเปลี่ยนเป็นวิธีควบคุมแบบการปัดหน้าจอหรือ Gestures ได้ในเมนูตั้งค่า

บริเวณขอบตัวเครื่องด้านบนก็จะมีความโค้งมน โดยจะเว้นโล่งเอาไว้ไม่มีการติดตั้งปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ อยู่ตรงบริเวณนี้ ส่วนของตัวเครื่องด้านล่างก็จะเป็นที่อยู่ของช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รูไมโครโฟนสำหรับสนทนา พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0 และลำโพงภายนอกของตัวเครื่อง ขอบตัวเครื่องทางด้านขวาก็จะเป็นที่อยู่ของปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power สำหรับใช้ปิดเปิดตัวเครื่อง ปลุกหรือพักหน้าจอ โดยออกแบบให้มีสีเดียวกันกับขอบของตัวเครื่องดูกลมกลืนและสวยงาม ส่วนทางขอบด้านซ้ายก็จะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด โดยเป็นถาดแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ได้ 2 ซิมพร้อมกับ microSD ในครั้งเดียวกันโดยที่ไม่ต้องเลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่ง

ด้านหลังของตัวเครื่องก็จะมีฝาหลังที่ถูกเคลือบสีให้มีความมันเงาพร้อมไล่เฉดสีได้อย่างสวยงาม โดยมีกล้องถ่ายรูป 2 ตัวเรียงกันเป็นแนวตั้งอยู่ในกรอบด้านมุมบนซ้ายมือของฝาหลัง และมีไฟแฟลช LED ติดตั้งอยู่ด้านล่างของกล้อง พร้อมตัวอักษรเล็ก ๆ ที่เขียนว่า AI Dual Camera อยู่ด้านล่างของไฟแฟลช โดยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของฝาหลังค่อนขึ้นไปทางด้านบนเล็กน้อย ซึ่งก็จะเป็นตำแหน่งที่พอดีกับการแตะนิ้วชี้ลงไปได้อย่างสะดวก และมีโลโก้ตัวอักษร Vivo อยู่ตรงกึ่งกลางด้านล่าง ดีไซน์โดยรวมของรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างดูเรียบง่ายแต่ก็ดูดีน่าใช้งานด้วยการออกแบบฝาหลังที่มีความมันเงาและใช้สีสันแบบไล่เฉดที่ดูสวยหรูเลยทีเดียว

Vivo Y11 มือถือรุ่นประหยัดที่จัดสเปคการใช้งานมาได้อย่างพอดี ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครัน พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 5,000 มิลลิแอมป์

ทางด้านประสิทธิภาพการใช้งานของ Vivo Y11 นั้นก็ถือได้ว่าจัดมาให้เพียงพอสำหรับความต้องการพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว และสามารถใช้งานด้านมัลติมีเดียรวมไปถึงการเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง ด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 439 (12 nm) CPU แบบ Octa-core (4x1.95 GHz Cortex-A53 & 4x1.45 GHz Cortex A53) หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505 จับคู่มากับ RAM 3GB หน่วยความจำภายในตัวเครื่องชนิด eMMC 5.1 ขนาด 32GB รองรับ microSD ได้สูงสุด 256GB ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.1 รักษาความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot และ Bluetooth 4.0, A2DP, LE มี GPS ในตัว (A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS) โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 5,000 มิลลิแอมป์ ไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

การทำงานของ Vivo Y11 บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.1 ก็มีหน้าจอหลักที่ดูเรียบง่ายคลองด้วยไอคอนในลักษณะสี่เหลี่ยมขอบมน โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเปลี่ยน Theme และ Wallpaper ในเครื่องได้ตามความต้องการ โดยสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน i Theme นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นการปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ โหมดถนอมสายตาหรือ Eye Protection รวมไปถึง Dark mode นอกจากนี้ Vivo Y11 ก็ยังติดตั้งแอปพลิเคชันพื้นฐานที่จำเป็นและบริการจาก Google เอามาไว้ให้ใช้งานกันอย่างครบครันอีกด้วย

ทางด้านฟังก์ชั่นการใช้งานอัจฉริยะที่มีอยู่บน Vivo Y11 ก็จะประกอบไปด้วย โหมด Smart Wake ซึ่งจะเป็นการวาดลงบนหน้าจอตามรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเรียกใช้งานคีย์ลัดอย่างเช่น การวาดตัวอักษร C เพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันการโทร การวาดเป็นตัวอักษร M เพื่อเข้าสู่ i Music สำหรับฟังเพลงเป็นต้น โหมด Smart turn on/off screen ก็จะเป็นการเปิดปิดหน้าจอแบบอัจฉริยะโดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ปลุกหน้าจอขึ้นมาเมื่อยกตัวเครื่องขึ้น หรือการเคาะที่หน้าจอ 2 ครั้งติดกันเพื่อเป็นการล็อกหน้าจอ และโหมด Smart Call ก็จะเป็นการตั้งค่าในส่วนของสายเรียกเข้าและการสนทนา นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมระบบผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Jovi AI Assistant ที่ในคราวนี้ก็รองรับฟังก์ชัน Smart Camera และ Smart Scene รวมไปถึงการพยากรณ์อากาศ แจ้งเตือนข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับ App Clone สำหรับการใช้งานบัญชี Social Network ได้พร้อมกัน 2 บัญชีในเครื่องเดียว พร้อมด้วยบริการ vivoCloud ให้ผู้ใช้งาน Vivo Y11 ใช้เป็นที่เก็บสำรองข้อมูลต่าง ๆ ภายในตัวเครื่องได้

สำหรับการใช้ Vivo Y11 ในการเล่นเกม ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่สเปคที่จัดมาให้สำหรับรองรับการเล่นเกมมากนัก แต่ก็จะมีในส่วนของ Ultra-Game Mode พร้อมด้วย Game Assistant ให้ใช้งานกัน ซึ่งก็จะทำการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งปิดกั้นการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่จะเข้ามารบกวนในขณะกำลังเล่นเกม จึงทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไหลมากขึ้น แต่ด้วยความที่ตัวชิปเซ็ตอย่าง Snapdragon 439 นั้นเป็นเพียงชิปเซ็ตระดับเริ่มต้นเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถรองรับการเล่นเกมที่ต้องมีการประมวลผลสูงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าหากต้องมีการเล่นเกมที่ใช้กราฟฟิกค่อนข้างมากก็แนะนำให้ทำการปรับตั้งค่าต่างๆในเกมให้อยู่ในระดับต่ำก็จะช่วยให้สามารถเล่นเกมได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

Vivo Y11 มากับกล้องถ่ายรูปด้านหลัง AI Dual Camera พร้อมกล้องหน้า ที่มี AI Beauty รองรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างสวยงามไม่แพ้ใคร

กล้องถ่ายรูปของ Vivo Y11 ก็เรียกได้ว่าจัดมาให้ดีงามตามมาตรฐาน โดยมากับกล้องหลัง 2 ตัว AI Dual Camera ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/2.2 โฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF ส่วนกล้องตัวที่สองก็จะเป็นกล้องสำหรับจับระยะชัดตื้นของวัตถุ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหน้าก็มาพร้อมกับความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/1.8

สำหรับโหมดการถ่ายรูปในรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐานและมาพร้อมกับโหมดการใช้งานที่น่าสนใจอย่าง Portrait Bokeh สำหรับการถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอของกล้องหลัง โดยสามารถปรับค่าความเบลอได้ตั้งแต่ f/0.95 - f/16 หรือจะมาปรับความเบลอของฉากหลังในภายหลังก็ได้ รองรับการถ่ายภาพในมุมกว้างด้วยโหมดพาโนรามา และยังมากับโหมด Pro ที่สามารถปรับตั้งค่าต่าง ๆ ในการถ่ายภาพได้ด้วยตนเอง สำหรับกล้องหน้าก็มีโหมดการถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอด้วย Portrait Bokeh พร้อมด้วย AI Face Beauty สำหรับตกแต่งใบหน้าให้ออกมาได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้ถึง 6 ระดับ พร้อมปรับ Skin Tone และถ่ายรูปได้สวยในทุกสภาพแสงด้วย โหมด HDR

ในส่วนของการถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอ ก็รองรับการถ่ายวิดีโอที่ระดับ Full HD (1080p@30fps) พร้อมฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแบบ SLO-MO และ Time Lapse ในกล้องหลัง ส่วนกล้องหน้าก็สามารถบันทึกวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดในระดับ Full HD (1080p@30fps) ด้วยเช่นเดียวกัน

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือก Vivo Y11

ข้อดี

• หน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว พร้อมรอยบากแบบติ่งหยดน้ำ
• สเปคเพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปในราคาไม่แพง
• มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานได้นานข้ามวัน
• ช่องใส่ซิมเป็นแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง พร้อมกับ microSD ได้

ข้อเสีย

• ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติก
• ไม่แถมหูฟังมาให้
• พื้นผิวของตัวเครื่องมีความมันเงาจึงอาจเลอะคราบนิ้วมือได้ง่าย
• ไม่มีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน
• ไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
• ความละเอียดของหน้าจอยังไม่ใช่ Full HD+
• พอร์ตเชื่อมต่อยังเป็น Micro USB 2.0