อาวดี้ (Audi) รถยนต์สายเลือดเยอรมันที่มีชื่อเสียงมายาวนาน อีกหนึ่งยี่ห้อรถในฝันของใครหลายคน
เมื่อพูดถึงรถยุโรปสัญชาติเยอรมันที่มาพร้อมทนทาน รูปลักษณ์ที่สร้างความภูมิฐานให้แก่เจ้าของรถรวมไปถึงสมรรถนะการใช้งานอันยอดเยี่ยม เชื่อได้เลยว่าสัญลักษณ์วงกลม 4 วงซ้อนกันต้องลอยขึ้นมาในหัวของใครหลาย ๆ คนเป็นแน่แท้ และสัญลักษณ์นั้นก็คือ Audi ที่ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนสัญลักษณ์เป็นรูปวงรีสีแดงภายในบรรจุตัวอักษร Audi สีขาวไปแล้ว แต่ก็ยังคงความนิยมอยู่ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย แต่กว่าจะมาเป็น Audi ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างในทุกวันนี้ ก็ต้องล้มลุกคลุกคลานผ่านเวลาอันยาวนานมาอยู่ไม่น้อย
จุดเริ่มต้นของ Audi ก็คงต้องพาย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1868 เด็กชายคนหนึ่งนามว่า August Horch ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในเมือง Winningen, Rhenish Prussia และเมื่อเขาจบการศึกษาจาก Hochschule Mittweida (Mittweida Technical College) ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เขาก็ได้เริ่มทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการต่อเรือ และได้ทำงานทำงานให้กับ Karl Benz นักออกแบบเครื่องยนต์และวิศวกรชาวเยอรมันมาจนถึงปีค. ศ. 1896 ก่อนที่จะมาตั้งบริษัทของเขาเองก็คือ A. Horch & Co. ในเดือนพฤศจิกายนปี พ.ศ. 1899 ที่เมือง Ehrenfeld, Cologne โดยรถยนต์คันแรกภายใต้ยี่ห้อ Horch เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1901 ต่อมาในปี ค.ศ. 1902 บริษัทก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ Reichenbach และย้ายไปอยู่ที่ Zwickau ในปี ค.ศ. 1904 แต่ด้วยความที่ Horch นั้นไม่มีความรู้ความเข้าใจและความสามารถในด้านการบริหารจัดการที่ดีพอ จึงทำให้กิจการรถยนต์ของเขามีอันต้องปิดตัวลงไป แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้โดยได้ทำการก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 1909 แต่ครั้นจะใช้ชื่อบริษัทเดิมก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากมีปัญหาทางด้านกฎหมายกับบริษัทเก่า เขาจึงต้องตัดสินใจตั้งชื่อบริษัทใหม่โดยได้คำแนะนำจากลูกชายซึ่งในขณะนั้นกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย โดยบอกว่า คำว่า Horch ในภาษาละตินนั้นออกเสียงว่า Audi ซึ่งแปลว่า ฟัง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ตั้งชื่อบริษัทว่า Audi Automobilwerke GmbH ในปี ค.ศ. 1910 และได้ทำการผลิตรถยนต์คันแรกออกมาคือรถรุ่น Audi Type A 10/22hp และได้ใช้ชื่อรถยนต์ว่า Audi นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แล้วหลังจากนั้นก็ได้ผลิตรถคันแรกที่มีพวงมาลัยอยู่ทางด้านซ้ายมือก็คือ Audi Type K ซึ่งได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงปี ค.ศ. 1920 เพราะมีวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีและมีความปลอดภัยสูงกว่ารถยนต์ที่มีพวงมาลัยอยู่ทางด้านขวามือ และหลังจากนั้น August Horch ได้ลาออกจากบริษัท Audi Automobilwerke GmbH เพื่อเข้าไปดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงคมนาคมที่เมือง Berlin
กิจการของ Audi ก็ได้ดำเนินการมาจนถึงปี ค.ศ. 1932 แต่เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนักในช่วงนั้นจึงทำให้บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ต้องเข้าร่วมกันดำเนินธุรกิจเพื่อความอยู่รอด จึงทำให้ Audi ได้ทำการการรวมกิจการเข้ากับผู้ผลิตรถยนต์อีกสามรายคือ Horch, Wanderer และ Dampf-Kraft-Wagen (DKW) กลายเป็นบริษัทใหม่มีชื่อว่า Auto Union AG โดยมี August Horch กลับมาดำรงตำแหน่งในฐานะคณะกรรมการบริษัท และได้ออกแบบสัญลักษณ์เป็นรูปวงแหวนสี่วงคล้องเรียงกัน ซึ่งก็หมายถึงการรวมตัวของทั้ง 4 บริษัทนั่นเอง โดยทั้ง 4 แบรนด์ก็ได้ร่วมผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายในแบรนด์ต่าง ๆ ของตัวเองภายใต้โลโก้เดียวกัน ซึ่งในช่วงหลังการรวมตัวนี้ได้มีการเปิดตัวรถยุโรปคันแรกที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าก็คือ Audi Front รถยุโรปคันแรกที่รวมเครื่องยนต์ 6 สูบเข้ากับเทคโนโลยีขับเคลื่อนล้อหน้าไว้ด้วยกัน ซึ่งการพัฒนาเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ของรถ Audi ก็มาจากการพัฒนาของ Horch และ Wanderer โดยผลกระทบจากเศรษฐกิจก็เลยทำให้ Auto Union นั้นหันมาสนใจ ในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น แต่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานผลิตของ Auto Union ก็ได้ถูกใช้เป็นที่ผลิตอาวุธทางการทหารแทน และผลกระทบจากสงครามโลกรวมไปถึงความเสียหายจากการโดนทิ้งระเบิดจึงทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงไปในปี ค.ศ. 1948 แต่ต่อมาในเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1949 บริษัท Auto Union ก็สามารถกลับมาผลิตรถยนต์ได้อีกครั้งด้วยกองทุนกู้ยืมจากรัฐบาล โดยเปิดตัวมาด้วยรถ 2 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ขนาด 125 ซีซี และรถตู้ให้กับ DKW แต่หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1958 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในขณะนั้นอย่าง Daimler-Benz บ่ได้เข้ามาถือหุ้นส่วนจำนวน 87% ของบริษัท และได้ครอบครองหุ้นทั้งหมดในปี ค.ศ. 1959 แต่เนื่องจากบริษัท Auto Union นั้นไม่ได้สร้างกำไรให้กับทาง Daimler-Benz สักเท่าไหร่นักจึงทำให้ถูกขายให้กับบริษัท Volkswagen ไปถึง 50% ในปี ค.ศ. 1964 และในปี ค.ศ. 1966 ทาง Volkswagen ก็ได้ซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด และกลายเป็นเจ้าของ Audi อย่างสมบูรณ์ โดยเปิดตัว Audi รุ่น 80 และ 100 อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี ค.ศ.1968 ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว
ต่อมาทาง Volkswagen Group ก็ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท NSU ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในช่วงนั้นโดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เมือง Neckarsulm ซึ่งอยู่ใกล้กับ Stuttgart และได้ตั้งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมาเมื่อวันที่ 1 มกราคมปี ค.ศ. 1969 ในชื่อ Audi NSU Auto Union AG และได้ใช้โรงงานนี้ผลิตรถ Audi รุ่น A6, A8 รวมถึงรถรุ่นที่มีสมรรถนะสูงอย่าง R8 และ RS ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อบริษัทให้สั้นลงเป็น Audi AG พร้อมกับเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ LED ไฟสีขาวสำหรับวิ่งตอนกลางวันครั้งแรกกับรถรุ่น Audi S6 โดยบริษัท Volkswagen ก็ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ภายใต้ชื่อแบรนด์ Audi ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงปี ค.ศ. 1970 โดยนับจากนั้นเป็นต้นมายอดขายของรถ Audi ก็ได้เติบโตเป็นอย่างมากและสามารถทำกำไรให้กับบริษัทแม่อย่าง Volkswagen Group ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้มีการนำรถยนต์ Audi เข้าร่วมรายการแข่งขันรถโดยในช่วงแรกนั้นก็เน้นไปทางการแข่งรายการแรลลี่ต่าง ๆ จากนั้นก็ได้เข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตโดยมีรถยนต์รุ่น Audi R8 เป็นตัวชูโรงและคว้าชัยในรายการ Le Mans ได้ถึง 3 ครั้งในช่วงปี ค.ศ. 2000-2002 ทั้งยังสามารถคว้าชัยได้เกือบทุกรายการของ American Le Mans Series อีกด้วย และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006-2008 Audi ก็ได้สร้างชื่ออีกครั้งในการแข่งขันรถยนต์ในสนามการแข่งขันสุดโหดอย่าง 24 hours of Le Mans โดยส่ง Audi R10 TDI เทอร์โบดีเซล พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์เจอร์ และ Audi ก็ได้พิสูจน์ความล้ำหน้าอีกขั้นบนเวทีโลกได้สำเร็จ เพราะที่ผ่านมานั้นยังไม่เคยมีรถยนต์ที่เป็นเทอร์โบดีเซลไปลงแข่งที่สนามเลอมังส์ (24 hours of Le Mans) มาก่อน ในขณะที่คู่แข่งยังคงใช้เบนซินซึ่งทำให้มีการเผาผลาญพลังงานหมดรวดเร็วกว่า และหลังปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา Audi ก็ยังคงเพิ่มเติมเทคโนโลยีล้ำหน้าเข้ามามากมาย ทั้งเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด รวมไปถึงเทคโนโลยีการจอดรถ แบบ Pilot Parking เป็นต้น
ความสำเร็จของ Audi นั้นได้ถูกส่งต่อมายังประเทศไทย โดยในช่วงแรกนั้นยังเป็นที่รู้จักในเฉพาะกลุ่มคนเล่นรถหรือคนที่ติดตามนวัตกรรมยานยนต์ชั้นนำของโลกจากนิตยสารต่างประเทศเท่านั้น จนกระทั่งช่วงรัฐบาลของนาย อานันท์ ปันยารชุน (ค.ศ. 1992-1993) ได้เปิดเสรีการค้าและลดภาษีนำเข้ารถยนต์ จึงทำให้คนไทยได้มีโอกาสได้รู้จักรถยนต์แบรนด์ Audi มากขึ้น จากการนำเข้ารุ่น 80 และ 100 และนปี ค.ศ. 1994 ก็ได้มีการนำเข้ารุ่น A4 และก็ได้มีการนำเข้า Audi รุ่นอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย จนในช่วงปี ค.ศ. 1996-1997 ซึ่งเป็นช่วงที่ Audi เพิ่งเปิดตัวรุ่น A6 ใหม่ในประเทศไทย โดยเป็นรถที่มีดีไซน์ล้ำสมัยมากที่สุดในยุคนั้น แต่ก็โชคไม่ดีที่เป็นช่วงเดียวกับการเกิดวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง แต่นับตั้งแต่เศรษฐกิจฟื้นฟูขึ้นในประเทศไทย รถยนต์ Audi ก็ยังคงเป็นแบรนด์พรีเมียมชั้นนำที่เป็นที่ต้องการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากรุ่นต่าง ๆ ที่นำเข้ามาในประเทศแล้ว ก็ยังมีรุ่นอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมอีกมากมาย โดยในปัจจุบัน Audi Thailand ยุคใหม่นั้นอยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท Meister Technik และเราจะได้เห็นความสำเร็จครั้งใหม่ของ Audi ในประเทศไทยอย่างแน่นอน
3 โมเดลรถของ Audi รุ่นที่มีการจำหน่ายในประเทศไทยและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
สำหรับรถยนต์ Audi รุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมและเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานรวมถึงได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยก็ได้แก่ Audi R8, Audi A5 และ Audi TT Coupe โดยแต่ละรุ่นก็มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. Audi R8 รถสปอร์ต Super car ตัวท็อปรุ่นยอดนิยมและโด่งดังระดับตำนานอีกรุ่นหนึ่งของค่าย Audi โดยในรุ่นล่าสุดก็คือ Audi R8 2019 ที่เปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2018 โดยมาในรูปลักษณ์ของ Coupe และ Spyder ที่มาพร้อมขุมพลังโหดยิ่งกว่าเดิมด้วยเครื่องยนต์ V10 และ V10+ ในรุ่นนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Audi Original Quattro ในช่วงปี ค.ศ. 1980 โดยได้หยิบจับเอาส่วนดีจากรถแข่งในค่ายมาปรับเสริมในเรื่องของงานดีไซน์ โดยเครื่องยนต์ตัวแรกเป็นแบบ V10 ขนาด 5.2 ลิตร แบบปกติที่มาพร้อมขุมกำลัง 562 แรงม้า ให้อัตราเร่งตั้งแต่ 0-100 ใน 3.4 วินาทีสำหรับในรุ่น Coupe และ 3.5 วินาทีในรุ่น Spyder โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 324 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น Coupe และ 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น Spyder
สำหรับในรุ่นเครื่องยนต์ V10+ ที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับคนชอบความแรงด้วยขุมกำลังถึง 612 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 ในเวลาเพียง 3.1 วินาทีในรุ่น Coupe และ 3.2 วินาทีในรุ่น Spyder โดยทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 331 และ 329 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามลำดับ นอกจากนี้ยังถูกเสริมด้วยระบบ Drive Modes ที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ Dry, Wet และ Snow นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเบรคพิเศษเฉพาะของ Audi ที่สามารถหยุดรถความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในระยะ 1.5 เมตรและจากความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในระยะเพียง 5 เมตรเท่านั้น
2. Audi A5 เป็นรถยนต์นั่งแบบ 5 ประตูหลังคาทรง Coupe ที่ผสมผสานเอาจุดเด่นในด้านต่างๆไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว มีความสวยงามทั้งภายนอกและภายในและให้อารมณ์สปอร์ตที่ดูโดดเด่นเร้าใจ ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2017 ได้มีการเปิดตัว Audi A5 Sportback รุ่นใหม่ งาน Motor Expo 2017 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน TFSI 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ทำงานร่วมกับ เกียร์อัตโนมัติ เอส-ทรอนิค 7สปีด คลัทช์คู่ ตอบสนองฉับไว ขับเคลื่อนล้อหน้าในรุ่น 40 TFSI และขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น 45 TFSI quattro S line ช่วงล่างมัลติลิงค์ 5 จุด ปรับปรุงใหม่ช่วยลดการสั่นสะเทือน เพิ่มความนุ่มนวล และควบคุมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์เป็นแบบสปอร์ตอย่างชัดเจนทั้งภายนอกและภายใน พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ดีที่สุดจาก Audi
3. Audi TT Coupe เป็นรถสปอร์ตพรีเมี่ยมที่ทำให้ Audi โดดเด่นและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีการเปิดตัวรุ่นแรกในปีค. ศ. 1998 โดยรุ่นล่าสุดก็คือ The New Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line ก็ได้มีการเปิดตัวไปในช่วงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 มาพร้อมรูปโฉมการตกแต่งแบบใหม่ตอกย้ำความเป็นสปอร์ตและสร้างความเร้าใจให้กับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) และเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า ที่ 4,500 – 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 4,300 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ quattro เอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเลื่องชื่อของอาวดี้ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งในเรื่องการเกาะถนน และการกระจายกำลังการขับขี่แบบแปรผันอิสระ ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดตกแต่งแบบ S Line ใหม่ล่าสุด กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยดีไซน์แบบรังผึ้ง พร้อมกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ช่วยตอกย้ำความสปอร์ตและปราดเปรียวของรถสปอร์ต Coupe ได้อย่างแท้จริง
ตัวแทนจำหน่ายและดีลเลอร์คุณภาพของ Audi ที่มีรถใหม่ให้เลือกได้ตามความต้องการอย่างครบครัน มาพร้อมข้อเสนอพิเศษและการบริการด้วยความประทับใจสำหรับคุณ
ปัจจุบันตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Audi ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการก็คือ บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด โดยมีนายกฤษฎา ล่ำซำ เป็นประธานกรรมการคณะกรรมการบริหาร โดยได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก Audi AG ประเทศเยอรมัน ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์อาวดี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2016 ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทได้เตรียมลงทุนทุ่มงบกว่า 1000 ล้านบาทสำหรับการปั้นธุรกิจ Audi ในประเทศไทย โดยได้เปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการรถยนต์ Audi แห่งแรก ในชื่อ Audi New Petchburi หรือ อาวดี้ เพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2017 บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ออกแบบและตกแต่งโดยทีมงานจาก Audi AG ประเทศเยอรมัน และ Audi Thailand ก็มีแผนที่จะขยายโชว์รูมรวมถึงศูนย์บริการมาตรฐานอีกจำนวน 6 แห่งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีก 4 แห่งรวมเป็นทั้งสิ้นอย่างน้อย 10 แห่งทั่วประเทศให้ครบภายในปี 2019 นี้ สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งที่ 2 นั้นใช้ชื่อว่า Audi Light House ตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งจะใช้เป็นทั้งออฟฟิศและสำนักงานใหญ่ของ Audi Thailand แห่งใหม่ โดยรถยนต์ที่นำเข้ามาจำหน่ายจะเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปจากประเทศเยอรมนีทุกคัน
ผู้ที่สนใจรถยนต์ Audi ก็สามารถเข้าไปเลือกดูรถรุ่นต่าง ๆ ที่มีกว่า 13 รุ่น 23 รุ่นย่อย โดยแบ่งเป็นรถในกลุ่ม luxury 5 รุ่น รถในกลุ่ม Sport 4 รุ่น รุ่น และรถอเนกประสงค์อีก 4 รุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีการเปิดตัวและนำเข้ารถอาวดี้รุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเข้าไปดูที่โชว์รูม Audi New Petchburi เปิดบริการทุกวัน วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดให้บริการ 08.00 – 20.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดให้บริการ 08.00 – 17.00 น. โทร. 02-023-4888 หรือที่เว็บไซต์ www.audi.co.th