Apple iPhone X เช็คราคาล่าสุด ราคาถูก สเปค

Apple iPhone X มือถือแห่งอนาคตที่พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานอันน่าประทับใจทุกครั้งที่ใช้งาน

ข้อดี

• มีหน้าจอแสดงผล Super Retina OLED ขนาด 5.8 นิ้ว รองรับการแสดงผล HDR10 ให้ภาพสวยงามคมชัด
• หน่วยประมวลผล A11 Bionic ที่รองรับ Neural Network อย่างเต็มรูปแบบ
• การปลดล็อคด้วยใบหน้าด้วย Face ID ที่มีความปลอดภัยและแม่นยำสูง
• สามารถถ่ายรูปโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างสวยงามทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
• กล้องถ่ายรูปด้านหลังเลนส์คู่ มีกันสั่น OIS มาให้
• มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP67
• รองรับ Apple Pay
• รองรับการใช้งาน Animoji
• รองรับ 3D Touch
• รองรับชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สาย

ข้อเสีย

• ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมจากภายนอก
• ไม่มีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• แบตเตอรี่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน
• ปัจจุบันเลิกผลิตแล้ว

พบกับ Apple iPhone X มือถือแห่งอนาคตที่มากับเทคโนโลยีไร้สายและมากับการปลดล็อคด้วย Face ID เป็นครั้งแรกของ iPhone

Apple iPhone X เป็น iPhone รุ่นที่เปิดตัวมาในช่วงเดือนกันยายนปี 2017 โดยเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาในปีที่ 10 พอดีหลังจากมีการเปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 กล่าวได้ว่ารุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่ออกมาเพื่อบ่งบอกว่าทิศทางของ iPhone ในอนาคตจะมีการพัฒนาไปในทางไหน มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอแสดงผลชนิด Super Retina OLED ที่รองรับเทคโนโลยีสีจอแบบ True Tone รองรับ HDR10 ให้ภาพสวยงามสีสันสดใสและมีความคมชัดสูง โดยมากับหน่วยประมวลผล A11 Bionic ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นแรกที่ได้ใส่ Neural Engine หรือโครงข่ายประสาทเทียมที่เลียนแบบการทำงานของสมองเข้ามา จึงทำให้สามารถประมวลผลและจัดลำดับการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น สามารถทำงานได้เร็วกว่า A10 ถึง 70% และในรุ่นนี้ก็มีการตัดเอาเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและปุ่ม Home ออกไปโดยใช้การสแกนใบหน้าด้วย Face ID แทน พร้อมรองรับการชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สาย มีกล้องถ่ายรูปด้านหลังแบบเลนส์คู่ที่สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอหรือโหมด Portrait ได้อย่างสวยงามมาก ส่วนกล้องหน้า TrueDepth ก็มีลูกเล่นสนุก ๆ อย่าง Animoji มาให้ใช้งานกัน ตัวเครื่องมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์การพัฒนาในอนาคตของ iPhone ได้เป็นอย่างดี

Apple iPhone X มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ โดดเด่นด้วยการออกแบบของโลหะและกระจกที่ผสมผสานทั้งความแข็งแรงทนทานและความหรูหราอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

การออกแบบของ Apple iPhone X ก็จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างวัสดุโลหะและกระจกที่มีความแข็งแรงทนทานด้วยกรอบตัวเครื่อง Stainless Steel ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกันกับใน Apple Watch รุ่นที่เป็นตัวเรือนสแตนเลส มีความเงางามสูงพร้อมให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น ครอบทับด้วยกระจก Scratch-resistant glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมเคลือบสาร oleophobic coating จึงทำให้แม้ว่าจะเป็นดีไซน์กระจกแต่ก็ไม่เลอะรอยนิ้วมือได้ง่าย ขอบมุมทั้งสี่ออกแบบให้มีความโค้งมนดูสวยงามเรียบเนียนไร้รอยต่อ ซึ่งทาง Apple ก็ได้บอกว่าเป็นกระจกที่มีความแข็งแรงมากที่สุดในบรรดามือถือตามท้องตลาดในตอนนี้เลยทีเดียว มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP67 โดยสามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นานถึง 30 นาที มีสีสันให้เลือกด้วยกัน 2 สีได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ตัวเครื่องมีขนาด 143.6 x 70.9 x 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 174 กรัม มีหน้าจอแสดงผลชนิด Super Retina OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซลที่ 458 ppi อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 มีอัตราส่วนหน้าจอแบบ 19.5:9 รองรับ 625 nits max brightness, Dolby Vision, HDR10, Wide color gamut, 3D Touch, True-tone และ 120Hz touch-sensing โดยด้านบนของหน้าจอก็จะมีรอยบากซึ่งเป็นที่อยู่ของกล้องถ่ายรูปด้านหน้าและพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาและลำโพงตัวที่สองของเครื่อง และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างของหน้าจอก็จะไม่มีปุ่มใด ๆ เพราะตัดปุ่มโฮมออกไป จึงทำให้ตัดเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่ตรงปุ่มโฮมออกไปด้วย แต่จะใช้การสแกนใบหน้าหรือ Face ID เพื่อปลดล็อคตัวเครื่องด้วยกล้องถ่ายรูปด้านหน้าเข้ามาแทน ซึ่งก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ มีความปลอดภัยสูงมากเลยทีเดียว

บริเวณขอบตัวเครื่องของด้านบนก็จะราบเรียบไม่มีการติดตั้งใด ๆ อยู่ตรงบริเวณนี้ โดยมีลำโพงเสียงสเตอริโอและพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning อยู่บริเวณขอบด้านล่างของตัวเครื่อง ทางขอบตัวเครื่องด้านซ้ายก็จะเป็นที่อยู่ของปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power สำหรับปิดเปิดเครื่อง ส่วนขอบตัวเครื่องทางด้านขวามือก็จะมีปุ่มสำหรับพักหน้าจอ โดยผู้ใช้งานสามารถกดปุ่มนี้ค้างเอาไว้เพื่อเรียกการใช้งาน Siri ได้ ถัดลงมาด้านล่างจากปุ่มนี้ก็จะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ด้านหลังของตัวเครื่องก็จะเป็นกระจกที่ได้ผ่านกระบวนการลงสีถึง 7 ชั้น จึงทำให้มีสีสันที่สวยและมีความเงางาม ซึ่งด้านหลังนี้ก็จะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูปแบบเลนส์คู่และไฟแฟลชเรียงกันเป็นแนวตั้งอยู่ในกรอบด้านมุมบนซ้ายมือ โดยมีโลโก้ของ Apple อยู่ตรงกึ่งกลางฝาหลังค่อนขึ้นไปทางด้านบน มีตัวอักษร iPhone อยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางทางด้านล่างของฝาหลัง สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องก็จะประกอบไปด้วย ตัวเครื่องของ Apple iPhone X ใบรับประกันสินค้า Adapter สำหรับชาร์จไฟ หูฟัง Ear pod สายชาร์จ Lightning และอุปกรณ์สำหรับเปิดถาดซิมการ์ด

Apple iPhone X มือถือที่มากับทิศทางแห่งอนาคตของ iPhone อย่างแท้จริง

ใน Apple iPhone X นั้นก็มาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีและเป็นตัวที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะเข้ามาอยู่ใน iPhone รุ่นต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยมากับหน่วยประมวลผล Apple A11 Bionic (10 nm) แบบ Hexa-core ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นแรกที่ทาง Apple นั้นได้ใส่ Neural Engine หรือโครงข่ายประสาทเทียมที่เลียนแบบการทำงานของสมองเข้ามาด้วย จึงทำให้สามารถประมวลผลและจัดลำดับการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำงานได้เร็วกว่าหน่วยประมวลผลรุ่นเก่าอย่าง A10 ได้มาถึง 70% เลยทีเดียว นอกจากจะช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นแล้วก็ยังใช้พลังงานที่น้อยลงอีกด้วย

สำหรับหน่วยประมวลผลกราฟิกก็จะเป็น Apple GPU (three-core graphics) โดยจับคู่มากับ RAM 3GB พร้อมหน่วยความจำภายในตัวเครื่องให้เลือกได้แก่ 64GB และ 256GB ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมจากภายนอก ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13 รองรับการใช้งาน 1 ซิมการ์ดแบบ Nano SIM รองรับ 4G LTE รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0 รองรับ NFC รองรับ 3D Touch และ Apple Pay (Visa, MasterCard และ AMEX) โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 2,716 มิลลิแอมป์ สามารถใช้สนทนาได้นานสูงสุด 21 ชั่วโมง ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงสุด 12 ชั่วโมง เล่นวีดีโอได้นานสูงสุด 13 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 60 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว พร้อมรองรับชาร์จเร็ว Fast battery charging ด้วย Adapter ขนาด 18 วัตต์ หรือสูงกว่า สามารถชาร์จได้ 50% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังรองรับ USB Power Delivery 2.0 และการชาร์จแบบไร้สาย Qi wireless charging โดยจะมีระบบการชาร์จแบบไร้สายฝังอยู่ภายในด้านหลังตัวเครื่องที่ทำจากกระจก สามารถใช้งานกับเครื่องชาร์จ Qi รวมไปถึงแผ่นรองชาร์จไร้สาย ซึ่งการชาร์จแบบไร้สายนี้ก็รองรับการชาร์จเร็วด้วยเช่นกัน

การใช้งาน Apple iPhone X นั้นจะมีความแตกต่างออกไปจากเดิมค่อนข้างมาก เพราะว่าเป็นรุ่นแรกที่ได้มีการตัดเอาเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและปุ่มโฮมออกไป ดังนั้นในส่วนของการรักษาความปลอดภัยก็จะใช้การปลดล็อคตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้าหรือ Face ID ที่มีความรวดเร็วแม่นยำสูง และมีความปลอดภัยเป็นอย่างมากเข้ามาแทนที่ Touch ID โดยสามารถใช้ปลดล็อคได้ทุกสภาพแสงแม้ในกระทั่งที่มืดก็ตาม โดยจะใช้การสแกนใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอพพลิเคชั่นหรือใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน Apple iPhone X แทนการใช้ Touch ID ที่มีอยู่ในรุ่นก่อนหน้า และเมื่อถูกตัดปุ่มโฮมออกไปเพื่อปรับให้หน้าจอแสดงผลนั้นมีขนาดที่กว้างมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้การใช้งานนั้นมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากเดิมที่มีปุ่ม Home อย่างเช่นเมื่อต้องการปลุกหน้าจอก็ให้ยกตัวเครื่องขึ้นมาแล้วแตะไปที่หน้าจอ 1 ครั้ง กลับหน้า Home โดยการปัดสั้น ๆ จากขอบด้านล่างลงมา ใช้การเลื่อนขอบจอด้านล่างซ้ายขวาเพื่อสลับแอพพลิเคชั่นที่เปิดเอาไว้ ใช้การลากจากมุมด้านบนขวาลงมาเพื่อเปิด Control Center หรือเปิดดู Widget โดยการลากตรงกลางหรือมุมซ้ายบนลงมาแล้วปัดไปทางด้านขวา การแคปหน้าจอจากปกติที่จะใช้ปุ่ม Home ร่วมด้วยก็จะเปลี่ยนเป็นการกดปุ่มเพิ่มเสียงและกดปุ่มด้านข้างพร้อมกันแทน เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ก็ต้องอาศัยการทำความคุ้นเคยกันอยู่เล็กน้อยว่าจะใช้อะไรยังไงเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วเมื่อไม่มีปุ่ม Home มาให้ใช้งาน

การใช้ Apple iPhone X ในด้านของความบันเทิงและสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ ก็สามารถทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่และมีความคมชัดสูง ตอบโจทย์ความบันเทิงได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงจากลำโพงสเตอริโอที่ให้เสียงดังมีมิติออกมาจากหลายทิศทาง ในส่วนของการเล่นเกมบอกได้เลยว่าสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล สามารถใช้เล่นเกมที่มีอยู่บน App Store ได้ทุกเกมแบบสบายไม่มีกระตุกอย่างแน่นอน

Apple iPhone X มากับกล้องถ่ายรูปด้านหลังแบบเลนส์คู่ที่ถ่ายรูปได้สวยขั้นเทพ พร้อมโหมด Portrait ที่ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้สวยขั้นสุด

หากพูดเรื่องกล้องถ่ายรูปในมือถือ บอกได้เลยว่า iPhone เป็นมือถือที่ถ่ายรูปได้สวยอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว และในรุ่นนี้ก็มากับกล้องถ่ายรูปด้านหลังแบบเลนส์คู่ โดยเป็นกล้องมุมกว้างและกล้องเทเลโฟโต้ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากัน โดยที่กล้องมุมกว้างนั้นมีขนาดรูรับแสง f/1.8 ส่วนกล้องเทเลโฟโต้มีขนาดรูรับแสง f/2.4 มีโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF พร้อมด้วยกันสั่นแบบออปติคอลหรือ OIS มาให้ทั้ง 2 ตัว สามารถซูมออปติคอลและซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า โดยมีฟีเจอร์การถ่ายภาพมาให้ใช้งานกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะในโหมด Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอก็มีเอามาให้ใช้งานกันในรุ่นนี้ด้วย และมีโหมดที่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างเช่น Studio Lighting ที่เข้ามาช่วยในการปรับแสง ส่วนการถ่ายภาพในบริเวณที่มีแสงน้อยหรือในเวลากลางคืนก็สามารถทำออกมาได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติมากเลยทีเดียว

กล้องหน้าของ Apple iPhone X ก็จะเป็นกล้อง TrueDepth ที่มากับความละเอียด 7 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงอยู่ที่ f/2.2 ระยะเลนส์ 32mm โดยที่กล้องหน้านี้ก็จะเป็นตัวที่ใช้สแกนใบหน้า หรือ Face ID โดยจะมี Sensor สำหรับจับความลึกอยู่ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องด้วย นั่นจึงทำให้สามารถ ถ่ายภาพบุคคลสำหรับเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลออย่าง Portrait Mode และ Portrait Lighting ได้เหมือนกับในกล้องหลัง และเมื่อทำการเซลฟี่ในสภาพแสงน้อยก็จะมีระบบ retina flash โดยเป็นการเปิดการใช้แสงแฟลชจากหน้าจอ รับรองว่าเซลฟี่ได้สวยทุกสภาพแสงไม่มีหน้ามืดแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังรองรับการใช้งานลูกเล่นสนุก ๆ อย่าง Animoji ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่อยู่ใน Messenger โดยผู้ใช้งานสามารถสร้าง Animoji ของตนเอง หรือสร้างสติ๊กเกอร์ Animoji ที่ปรับแต่งเองส่งให้เพื่อน ๆ เพื่อเป็นการแสดงสีหน้าท่าทางและอารมณ์ในระหว่างที่แชทผ่านทาง Messenger กันได้ผ่านทางตัวอิโมจิน่ารัก ๆ ในมือถือ คล้ายกับการให้ตัวอิโมจินั้นเป็นตัวแทนของเรา และยังสามารถใช้ Animoji ร่วมกับ FaceTime ได้อีกด้วย หรือจะนำไปตัดต่อเป็นคลิปวิดีโอสนุก ๆ เล่นกันก็ยังได้

Apple iPhone X มือถือแห่งอนาคตที่มากับความสามารถครบครันรอบด้านอย่างแท้จริง

ก็เรียกได้ว่า Apple iPhone X เป็นมือถือที่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานครบทุกความต้องการเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องที่มีดีไซน์สวยหรูแรงทนทานด้วยกระจกและสแตนเลสสตีล สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP67 มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ให้ภาพคมชัดสวยงาม ประสิทธิภาพการใช้งานที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานได้มากขึ้น มากับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สาย พร้อมทั้งตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดีด้วยระบบเสียงสเตอริโอ มีกล้องถ่ายรูปสวยระดับเทพที่มากับโหมด Portrait สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง การสแกนใบหน้าด้วย Face ID ที่มีความรวดเร็วแม่นยำและมีความปลอดภัยสูง ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการผลิตออกมาจำหน่ายแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่บ่งบอกได้ถึงกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัยของ iPhone ที่มีมาตลอด 10 ปีและที่จะเป็นไปหลังจากนี้ของ iPhone ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

2019-10-30